tag:blogger.com,1999:blog-35893014816639166102024-03-08T12:32:42.500-08:00โรงเรียนวัดเขาวัง(แสง ช่วงสุวนิช)ยินดีต้อนรับเข้าสู่รั้วเทา-แดงatomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.comBlogger18125tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-21458308823560549552010-03-05T04:16:00.000-08:002010-03-05T04:18:54.098-08:00หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ดินในท้องถิ่นของเรา เรื่อง กระบวนการเกิดดิน<span style="font-size:180%;">แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9</span><br /><br />กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4<br />หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ดินในท้องถิ่นของเรา เวลา 11 ชั่วโมง<br />เรื่อง กระบวนการเกิดดิน เวลา 1 ชั่วโมง<br />ผู้สอน นางสาวสิรินธร พรมชาติ โรงเรียนวัดเขาวัง (แสง ช่วงสุวนิช)<br /><br /> 1.มาตรฐานการเรียนรู้ ว6.1 เข้าใจกระบวนการต่างๆที่เกิดขึ้นบนผิวโลกความสัมพันธ์ของกระบวนการต่างๆที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศภูมิประเทศและสัณฐานของโลกมีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์<br /><br /><span style="font-size:130%;">2.สาระสำคัญ<br /></span> ดินเป็นวัสดุธรรมชาติหรือเป็นทรัพยากรธรรมชาติประเภทหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยกระบวนการสลายตัวของหินและแร่ธาตุต่างๆรวมกับอินทรียวัตถุหรือฮิวมัสซึ่งเป็นซากพืชซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยผุพังและเป็นส่วนประกอบของเปลือกโลก<br /><br /><span style="font-size:130%;">3.สาระการเรียนรู้<br /></span> 3.1 กระบวนการเกิดดิน<br /> 3.2ส่วนประกอบของดิน<br /><br /><span style="font-size:130%;">4.ตัวชี้วัดชั้นปี/จุดประสงค์การเรียนรู้<br />จุดประสงค์ปลายทาง<br /></span> อธิบายกระบวนการเกิดดินได้<br /><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์นำทาง<br /></span> นักเรียนสืบค้นข้อมูลกระบวนการเกิดดินได้<br /> นักเรียนทดลองและบอกส่วนประกอบของดินได้<br /><span style="font-size:180%;"><br />กิจกรรมการเรียนรู้<br /></span>ขั้นสร้างความสนใจ<br />1.ครูแจ้งจุดประสงค์ให้นักเรียนทราบว่า<br /> 15นาที แรกนักเรียนแต่ละกลุ่มออกไปสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเกิดดินและส่วนประกอบของดินในบอร์ดที่ครูเตรียมไว้แล้วจดบันทึก<br /> 15นาที หลังนักเรียนจะได้ทำการทดลองเกี่ยวกับส่วนประกอบของดินและตอบคำถามในเรื่องกระบวนการเกิดดิน<br />2.ครูให้นักเรียนดูตัวอย่างดินและบอร์ดภาพที่เกี่ยวกับดิน<br />3.ครูกับนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับดินด้วยคำถาม<br />3.1นักเรียนรู้จักดินหรือไม่<br />3.2ดินคืออะไร<br />3.3ดินเกิดมาได้อย่างไร<br />3.4ดินมีอะไรเป็นส่วนประกอบบ้าง<br /><br /><span style="font-size:130%;">ขั้นสำรวจและค้นหา</span><br />1.ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มด้วยวิธีจับสลาก 5กลุ่ม<br />2.นักเรียนแต่ละกลุ่มออกไปสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเกิดดินและส่วนประกอบของดินในบอร์ดที่ครูเตรียมไว้แล้วจดบันทึก<br />3.นักเรียนนั่งเป็นกลุ่ม 5 กลุ่มตามเดิม<br />4.ครูชี้แจงการทดลองและให้ตัวแทนนักเรียนออกมารับอุปกรณ์การทดลองจากครู<br /> กลุ่มละ 1 ชุด<br /><br /><span style="font-size:130%;">ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป</span><br />ครูให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอกิจกรรมการเรียนรู้และผลการทดลองของตนเอง<br />ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า ดินเป็นวัสดุธรรมชาติหรือเป็นทรัพยากรธรรมชาติประเภทหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยกระบวนการสลายตัวของหินและแร่ธาตุต่างๆรวมกับอินทรียวัตถุหรือฮิวมัสซึ่งเป็นซากพืชซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยผุพังและเป็นส่วนประกอบของเปลือกโลก<br />ขั้นประเมิน<br />1.ประเมินจากการสังเกตการทำงานเป็นกลุ่ม<br />2.ประเมินจากใบกิจกรรมที่1เรื่อง กระบวนการเกิดดิน<br />และผลการทดลองส่วนประกอบของดิน<br />สื่อและแหล่งการเรียนรู้<br />1. บอร์ดเรื่องกระบวนการเกิดดินและส่วนประกอบของดิน<br />2. อุปกรณ์การทดลอง(ดิน ไม้จิ้มฟัน กระป๋อง กระดาษหนังสือพิมพ์ แว่นขยาย)<br />3. ใบกิจกรรมที่1เรื่องกระบวนการเกิดดิน<br /><br /><br />ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่องส่วนประกอบของดิน<br />ชื่อ .......................................................................ชั้น .................เลขที่…………..<br />วันที่ .................. เดือน.........................................พ.ศ. ......................<br />จุดประสงค์ เพื่อศึกษาส่วนประกอบของดิน<br />ปัญหา เนื้อดินที่นำมาศึกษามีส่วนประกอบอะไรบ้าง<br />คาดคะเนคำตอบของปัญหา(สมมุติฐาน)<br />.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................<br />ผลการทดลอง<br />ตารางบันทึกผลการทดลอง<br />ตัวอย่างดิน(บอกบริเวณที่นำมาศึกษา)<br />ผลการสังเกตส่วนประกอบของเนื้อดิน<br /><br />ตอบคำถามต่อไปนี้<br /><br />1.ดินตัวอย่างที่นำมาศึกษามีส่วนประกอบอะไรบ้าง<br />............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................<br />2.ผลการทดลองของกลุ่มเหมือนหรือต่างจากกลุ่มอื่นหรือไม่อย่างไร(ให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกลุ่มอื่น)<br />.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3.จากผลการทดลองพบสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในดินตัวอย่างหรือไม่ถ้าพบให้ระบุชนิดของสิ่งมีชีวิตนั้นด้วย(ถ้าบอกได้)<br />......................................................................................................................................................................................................................................................................................4.การทดลองนี้สอดคล้องกับสมมุติฐานที่กำหนดไว้หรือไม่<br />.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................<br />สรุปผลการทดลอง<br />.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-38596144744541270072010-03-05T04:14:00.000-08:002010-03-05T04:16:14.136-08:00แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ระบบสุริยะ<span style="font-size:180%;">แผนการจัดการเรียนรู้</span><br /><span style="font-size:180%;"><br /></span>วิชา วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4<br />โรงเรียนวัดเขาวัง(แสง ช่วงสุวนิช) หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 จักรวาลและอวกาศ<br />แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ระบบสุริยะ จำนวน 5 ชั่วโมง<br />วันที่ทำการสอนวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552<br />ผู้สอน 1.นางสาวสิรินธร พรมชาติ<br />1. มาตรฐาน ว 7.1เข้าใจวิวัฒนาการของระบบสุริยะ กาแล็กซี่และเอกภพ การปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะและผลต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ การสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์<br />2. ตัวชี้วัดชั้นปี/จุดประสงค์การเรียนรู้<br /><span style="font-size:180%;">จุดประสงค์การเรียนรู้<br /></span><br />หลักฐาน/ชิ้นงาน/ภาระงาน<br /><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์ปลายทาง มฐ.ว7.1(1)<br /></span>1.สามารถสร้างแบบจำลองเพื่ออธิบายลักษณะของระบบสุริยะได้<br /><br />-กิจกรรมพัฒนาการคิด(แบบจำลอง)<br /><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์นำทาง<br /></span>1.อธิบายส่วนประกอบของระบบสุริยะได้<br />2.ตอบคำถามเกี่ยวกับระบบสุริยะได้<br /><br />-การสืบค้นข้อมูลความหมาย ประเภทของดวงดาว<br />-การตอบคำถามเกี่ยวกับระบบสุริยะ<br /><br /><span style="font-size:130%;">3.สาระการเรียนรู้</span><br />ระบบสุริยะ เป็นระบบของดวงดาว ประกอบด้วยดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง มีดาวเคราะห์บริวาร 8 ดวงได้แก่ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัสและดาวเนปจูน นอกจากนี้ยังมีดวงจันทร์ซึ่งเป็นบริวารของดาวเคราะห์ต่างๆ ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย และดาวหาง ดวงดาวเหล่านี้โคจรรอบดวงอาทิตย์<br /><br />4.กิจกรรมการเรียนรู้<br />-กระบวนการสืบสวนสอบสวน<br /><br />ชั่วโมงที่1<br /><br />กิจกรรมนำสู่บทเรียน<br />1. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ<br />2. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน<br />3. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับอวกาศและดวงดาวเพื่อนำเข้าสู่บทเรียน เช่น<br />- ดวงจันทร์และดวงดาวต่างๆที่เรามองเห็นบนท้องฟ้าโน่น นักเรียนคิดว่ามันอยู่ที่ไหน<br />- เมื่อออกไปนอกโลกจะเป็นอย่างไร<br />- นักเรียนรู้จักระบบสุริยะหรือไม่ ระบบสุริยะคืออะไร<br /><br /><span style="font-size:130%;">กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้</span><br /><br />ขั้นสร้างความสนใจ<br />1. ครูให้นักเรียนหลับตาแล้วครูก็ค่อยๆเอาภาพดาวแต่ละดวงมาให้นักเรียนดูแล้วสนทนากับนักเรียนในประเด็นต่อไปนี้<br />- จากภาพนักเรียนคิดว่าเป็นภาพอะไร<br />- นักเรียนสังเกตจากสิ่งใดจึงคิดว่าเป็นภาพนั้น<br />2. ครูให้นักเรียนอ่านข้อมูลและร่วมกันสรุปความหมายของระบบสุริยะ<br /><br />ชั่วโมงที่2<br />ขั้นสำรวจและค้นหา<br />1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 5 - 6 คนให้แต่ละกลุ่มศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของระบบสุริยะ จากนั้นทำใบกำหนดงานกิจกรรมที่ 1 (สังเกตและตอบคำถาม)<br />2. ครูมอบหมายให้แต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับดวงดาวในระบบสุริยะจากบทเรียนนี้กลุ่มละ 1 ดวง<br />3. ให้สมาชิกกลุ่มร่วมกันสรุปสาระสำคัญของข้อมูลที่ทำการศึกษาและสืบค้นมา<br /><br /><span style="font-size:130%;">ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป<br /></span>1. ให้นักเรียนทำใบกำหนดงานกิจกรรมที่2ระบบสุริยะ(แผนผังความคิด)<br /><br />2. ให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมาสรุปลักษณะเด่นของดวงดาวที่กลุ่มของตนเองศึกษา<br /><br />3. นักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปได้ว่าระบบสุริยะเป็นระบบของดวงดาว ประกอบด้วยดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง มีดาวเคราะห์บริวาร 8 ดวงได้แก่ ดาวพุธ<br />ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัสและดาวเนปจูน นอกจากนี้ยังมีดวงจันทร์ซึ่งเป็นบริวารของดาวเคราะห์ต่างๆ ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย และดาวหาง ดวงดาวเหล่านี้โคจรรอบดวงอาทิตย์<br /><br />4. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับดาวพลูโตว่าดาวพลูโตเคยมีสถานะเป็นดาวเคราะห์แต่ในปัจจุบันได้ถูกจัดสถานะใหม่ให้เป็นดาวเคราะห์แคระเพราะว่ามีวงโคจรซ้อนทับกับดาวเนปจูนปัจจุบันจึงเหลือดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ 8 ดวงและถ้าใช้ระยะทางจากโลกถึงดวงอาทิตย์เป็นเกณฑ์ในการจำแนกดาวเคราะห์ ดาวพุธและดาวศุกร์จัดเป็นดาวเคราะห์วงในเพราะอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์น้อยกว่าโลกส่วนดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูนเป็นดาวเคราะห์วงนอกเพราะอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากกว่าโลก<br /><br />5. ครูให้นักเรียนนำความรู้เกี่ยวกับดวงดาวในระบบสุริยะที่ได้ไปสืบค้นข้อมูลมาเขียนลงในใบกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้จากนั้นร่วมกันเฉลย<br /><br />ชั่วโมงที่3<br /><br />ขั้นขยายความรู้<br />1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับดาวเคราะห์จากนั้นตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่อ่านกลุ่มละ 2 คำถามครูสุ่มเรียกนักเรียนทีละกลุ่มให้ถามคำถามเพื่อนโดยเลือกว่าจะถามกลุ่มไหน(ห้ามซ้ำกัน)<br />2. นักเรียนในชั้นร่วมกันอภิปรายว่าการศึกษาระบบสุริยะมีประโยชน์อย่างไร จากนั้นร่วมกันสรุปเป็นองค์ความรู้<br />ขั้นประเมิน<br />1. ครูให้นักเรียนอธิบายความหมายส่วนประกอบของระบบสุริยะและแบบทดสอบที่1เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ<br /><br />เตรียมล่วงหน้า<br /><br />ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับระบบสุริยะเพื่อออกแบบระบบสุริยะจำลองโดยร่างแบบลงในสมุดและกำหนดอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างแบบจำลองแล้วนำเสนอแบบร่างกับครูเพื่อให้ครูแนะนำและจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำงานมาในครั้งต่อไป<br /><br />ชั่วโมงที่4-5<br /> <br />กิจกรรมรวบยอด<br />1. ครูแจ้งนักเรียนว่าให้นักเรียนสร้างแบบจำลองระบบสุริยะทำเพื่อเก็บคะแนนสะสมจากนั้นนักเรียนแต่ละกลุ่มนำวัสดุอุปกรณ์ที่เตรียมมาสร้างแบบจำลองระบบสุริยะ<br />2. ให้แต่ละกลุ่มนำเสนอแบบจำลองระบบสุริยะของกลุ่มพร้อมทั้งอธิบายลักษณะของระบบสุริยะ<br />3. ครูให้นักเรียนรวบรวมแบบจำลองส่งครู<br />5. สื่อและแหล่งการเรียนรู้<br />1. ภาพระบบสุริยะ<br />2. แบบทดสอบก่อนเรียน<br />3. หนังสือวิทยาศาสตร์ป.4<br />4. ใบกำหนดงานกิจกรรมที่1 /2<br />5. วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำแบบจำลอง<br /><br />6. การวัดและประเมินผล<br />6.1 ประเมินผลจากแบบจำลองระบบสุริยะ<br />6.2 ประเมินผลจากแบบทดสอบ<br />6.3 ประเมินผลจากใบกำหนดงานกิจกรรมที่1 และ2<br />7. กิจกรรมเสนอแนะ<br /><br />..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-35600360059124831772010-03-05T04:12:00.000-08:002010-03-05T04:14:04.868-08:00แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่องเซลล์สุริยะ<span style="font-size:180%;">แผนการจัดการเรียนรู้</span><br /><span style="font-size:180%;"><br /></span>วิชา วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4<br />โรงเรียนวัดเขาวัง(แสง ช่วงสุวนิช) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 พลังงานแสง<br />แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่องเซลล์สุริยะ จำนวน 1 คาบ<br />วันที่ทำการสอนวันที่ 16 ธันวาคม 2552<br />ผู้สอน 1.นางสาวสิรินธร พรมชาติ<br /> มาตรฐาน ว 5.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับการดำรงชีวิต การแลกเปลี่ยนรูปพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์<br />1.สาระสำคัญ เซลล์สุริยะคืออุปกรณ์ที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าโดยรับแสงอาทิตย์และเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า<br /><span style="font-size:130%;">2.สาระการเรียนรู้</span><br />เซลล์สุริยะ<br />1. ความหมายของเซลล์สุริยะ<br />2. ข้อดีและข้อจำกัดของเซลล์สุริยะ<br />3. สิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้เซลล์สุริยะ<br /><br /><span style="font-size:180%;">3.จุดประสงค์การเรียนรู้<br /></span><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์ปลายทาง<br /></span>อธิบายความหมายของเซลล์สุริยะได้<br /><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์นำทาง<br /></span>1. อธิบายความหมายของเซลล์สุริยะได้<br />2. เขียนข้อดีและข้อจำกัดของเซลล์สุริยะได้<br />3. ยกตัวอย่างเครื่องใช้ที่ใช้เซลล์สุริยะได้<br /><br />4.กระบวนการเรียนรู้<br />1. กิจกรรมนำสู่บทเรียน<br />1.1 การจัดนักเรียนโดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 6 กลุ่ม<br />1.2 ทบทวนความรู้เดิมและนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการตั้งประเด็นคำถามดังนี้<br /> - นักเรียนรู้จักและเคยเห็นเซลล์สุริยะหรือไม่<br /> - นักเรียนคิดว่าอุปกรณ์ใดบ้างที่ใช้แผงเซลล์สุริยะ<br /> - นักเรียนคิดว่าเซลล์สุริยะมีข้อดีหรือข้อเสียหรือไม่ อย่างไร<br />ครูให้นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างอุปกรณ์ต่างๆที่มี เซลล์สุริยะ<br />2. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน<br />ขั้นที่1ขั้นวางแผน<br />- สมาชิกกลุ่มร่วมกันวางแผนการทำกิจกรรม<br />ขั้นที่2ปฏิบัติตามแผน<br />- ตัวแทนกลุ่มมารับแผงเซลล์สุริยะจากครู<br />- ครูให้นักเรียนสังเกตอุปกรณ์ที่ได้แล้ววาดภาพและให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่าถ้าแสงเคลื่อนที่มายังเซลล์สุริยะแล้วเราจะนำพลังงานที่ได้มาใช้ได้อย่างไรและมันมีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไร<br />ขั้นที่3อธิบายขยายความรู้<br />ถามนักเรียนและอธิบายประกอบภาพ<br />- นักเรียนคิดว่าเซลล์สุริยะมีประโยชน์อย่างไร<br />- อุปกรณ์ที่นักเรียนเคยเห็นมีอะไรบ้างที่ใช้เซลล์สุริยะและนักเรียนจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไร<br />- แต่ละกลุ่มระดมความคิดในเรื่องดังกล่าว<br />- ครูให้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดและผู้คิดค้นเซลล์สุริยะ<br /> ขั้นที่5สรุป<br />- ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า เซลล์สุริยะคืออุปกรณ์ที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าโดยรับแสงอาทิตย์และเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าเซลล์สุริยะประกอบด้วยสารที่มีส่วนประกอบของสารกึ่งตัวนำเช่นซิลิคอน เมื่อแสงอาทิตย์มากระทบแผ่นเซลล์สุริยะจะทำให้เกิดประจุไฟฟ้าระหว่างชั้นซิลิคอนไฟฟ้าที่ได้จะเป็นไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งสามารถเก็บสะสมพลังงานไว้ในแบตเตอรี่เพื่อใช้งานได้<br /><br />5.สื่อการสอน/แหล่งเรียนรู้<br />1. หนังสือวิทยาศาสตร์ ป.4<br />2. ภาพเซลล์สุริยะ<br />3. อุปกรณ์ที่ใช้เซลล์สุริยะ<br />4.ใบกิจกรรมที่1เรื่องเซลล์สุริยะ<br /><br />6.การวัดผล<br />1.วัดผลการอธิบายความหมายของเซลล์สุริยะด้วยการตรวจผลการอธิบายความหมายของเซลล์สุริยะตามการถาม-ตอบโดยยึดเกณฑ์ได้<br />2.วัดผลการเขียนข้อดีและข้อจำกัดของเซลล์สุริยะใบกำหนดงานที่1โดยยึดเกณฑ์ได้<br />3.วัดผลการยกตัวอย่างสิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้เซลล์สุริยะตามใบกำหนดงานที่1โดยยึดเกณฑ์ได้<br /><br />7.ประเมินผล<br />1.ประเมิลผลการอธิบายความหมายของเซลล์สุริยะพบว่านักเรียน.....คนอธิบายความหมายของเซลล์สุริยะไม่ได้แก้ไขด้วยการอธิบายให้ฟังอีกรอบ<br />2.ประเมิลผลการเขียนข้อดีและข้อจำกัดของเซลล์สุริยะพบว่านักเรียน.....คนเขียนข้อดีและข้อจำกัดของเซลล์สุริยะไม่ได้แก้ไขด้วยการให้นักเรียนในชั้นช่วยเขียนให้ดูให้ฟัง<br />3.ประเมิลผลการยกตัวอย่างสิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้เซลล์สุริยะพบว่านักเรียน.....คนยกตัวอย่างสิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้เซลล์สุริยะไม่ได้แก้ไขด้วยการให้ดูภาพหรือสื่ออีกรอบ<br /><br />บันทึกผลหลังสอน<br />…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………<br /><br />ใบกำหนดงานที่ 1 กิจกรรมที่ 1 เรื่องเซลล์สุริยะ<br />คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนข้อดีและข้อจำกัดของเซลล์สุริยะมาให้มากที่สุด<br /> ( Mind mapping )<br /><br />คำชี้แจง ให้นักเรียนวาดภาพอุปกรณ์ที่ใช้เซลล์สุริยะมาคนละ 1 ชิ้นให้สวยที่สุดพร้อมระบายสีatomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-15210357372935276992010-03-05T04:10:00.000-08:002010-03-05T04:12:03.821-08:00แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง รุ้งกินน้ำ<span style="font-size:180%;">แผนการจัดการเรียนรู้</span><br /><br />วิชา วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4<br />โรงเรียนวัดเขาวัง(แสง ช่วงสุวนิช) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 พลังงานแสง<br />แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง รุ้งกินน้ำ จำนวน 1 คาบ<br />วันที่ทำการสอนวันที่ 14 ธันวาคม 2552<br />ผู้สอน 1.นางสาวสิรินธร พรมชาติ<br /> มาตรฐาน ว 5.1เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับการดำรงชีวิต การแลกเปลี่ยนรูปพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์<br />สาระสำคัญ รุ้งกินน้ำเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเนื่องจากสมบัติของแสงเมื่อแสงเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางโปร่งใสต่างชนิดกันจะทำให้เกิดการหักเหของแสง<br /><br /><span style="font-size:130%;">สาระการเรียนรู้</span><br />รุ้งกินน้ำ<br />1. ความหมายของรุ้งกินน้ำ<br />2. ปัจจัยที่ทำให้เกิดรุ้งกินน้ำ<br />3. ทดลองการเกิดรุ้งกินน้ำ<br /><br /><span style="font-size:180%;"> จุดประสงค์การเรียนรู้</span><br /><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์ปลายทาง</span><br />อธิบายการเกิดรุ้งกินน้ำได้<br /><br /><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์นำทาง</span><br />1. อธิบายความหมายของรุ้งกินน้ำได้<br />2. บอกปัจจัยที่ทำให้เกิดรุ้งกินน้ำได้<br />3. ทดลองการเกิดรุ้งกินน้ำได้<br /><br /><span style="font-size:130%;">กระบวนการเรียนรู้</span><br /><span style="font-size:130%;"></span><br />1. กิจกรรมนำสู่บทเรียน<br />1.1 การจัดทำนักเรียนโดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 6กลุ่มด้วยวิธีนับ<br />1.2 ทบทวนความรู้เดิมและนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการตั้งประเด็นคำถามดังนี้<br />-สิ่งที่ให้แสงสว่างที่ใหญ่ที่สุดเราเรียกว่าอะไร<br />- แสงอาทิตย์มีสีหรือไม่<br />- เมื่อแสงขาวไปกระทบกับตัวกลางโปร่งใสต่างชนิดกันเช่นอากาศกับน้ำก็จะเกิดการหักเหก็จะเกิดการสะท้อนกลับหมดก็จะเกิดแถบสี.........สีอะไรบ้าง.............แถบสีนี้เราเรียกว่า..............(สเปกตรัมของแสงอาทิตย์)<br />- ปรากฏการณ์เช่นนี้เราเรียกว่า.....................<br />- รุ้งกินน้ำคืออะไร<br />- เกิดขึ้นจากสิ่งใด<br />- แล้วจะเกิดขึ้นในทิศทางใด<br />1.3 อธิบายความหมายของรุ้งกินน้ำแล้วกำหนดภาระงานให้นักเรียนเขียนลงในใบกำหนดงานที่1กิจกรรมที่1เรื่องรุ้งกินน้ำ<br />2. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน<br />ขั้นที่1การจัดกลุ่ม<br />- ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม6กลุ่มเท่าๆกัน<br />ขั้นที่2ขั้นวางแผน<br />- สมาชิกกลุ่มร่วมกันวางแผนการทำกิจกรรม<br />ขั้นที่3ปฏิบัติตามแผน<br />- ตัวแทนกลุ่มมารับปริซึมและสเปรย์จากครู<br />- ครูให้นักเรียนสังเกตอุปกรณ์และเตรียมความพร้อมในการเรียนนอกห้องเรียน<br />ขั้นที่4อธิบายขยายความรู้ <br />ถามนักเรียนและอธิบายประกอบภาพ<br />- จากการทดลองนักเรียนเห็นรุ้งกินน้ำหรือไม่<br />- เห็นครบทั้ง7สีหรือไม่<br />- นอกจากละอองน้ำจากสเปรย์และปริซึมแล้วอะไรที่ทำให้นักเรียนเห็นสีรุ้งบ้าง<br />- สเปกตรัมของแสงที่เราเห็นก็เป็นการแยกคลื่นออกตามความถี่ของแสงและความยาวคลื่นแสงแสงสีม่วงมีความถี่สูง(ความยาวคลื่นสั้นที่สุด)และแสงสีแดงมีความถี่ต่ำสุด(ความยาวคลื่นมากที่สุด)<br /><br /> ขั้นที่5สรุป<br />- ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่าเมื่อแสงขาวเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางโปร่งใสต่างชนิดกัน ทิศทางการเคลื่อนที่ของแสงเปลี่ยนเราเรียกว่าการหักเหของแสงและกระจายออกเป็นแถบสี7สีมี ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดงเราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่ารุ้งกินน้ำ<br />- ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดรุ้งกินน้ำนี้มีอยู่3ปัจจัยคือแสงจากดวงอาทิตย์ จำนวนละอองน้ำต้องมากพอ แสงมุมที่ตกกระทบต้องพอเหมาะ<br /><br />5.สื่อการสอน/แหล่งเรียนรู้<br />1.หนังสือวิทยาศาสตร์ ป.4<br />2.ภาพรุ้งกินน้ำ<br />3.สเปรย์ ปริซึม<br />4.ใบกิจกรรมที่1เรื่องรุ้งกินน้ำ<br /><br />6.การวัดผล<br />1. วัดผลการอธิบายความหมายของรุ้งกินน้ำด้วยการตรวจผลการอธิบายความหมายของเลนส์ตามการตอบคำถามโดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br />2. วัดผลการบอกปัจจัยที่ทำให้เกิดรุ้งกินน้ำจากใบกำหนดงานที่1โดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br />3. วัดผลการทดลองการเกิดรุ้งกินน้ำด้วยการถาม-ตอบและใบกำหนดงานที่1โดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br /><br />7.ประเมินผล<br />1. ประเมิลผลการอธิบายความหมายรุ้งกินน้ำพบว่านักเรียน.....คนอธิบายความหมายของรุ้งกินน้ำไม่ได้แก้ไขด้วยการอธิบายให้ฟังอีกรอบ<br />2. ประเมิลผลการบอกปัจจัยที่ทำให้เกิดรุ้งกินน้ำพบว่านักเรียน.....คนบอกปัจจัยที่ทำให้เกิดรุ้งกินน้ำไม่ได้แก้ไขด้วยการให้นักเรียนในชั้นช่วยบอกให้ฟัง<br /><br />บันทึกผลหลังสอน<br />…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………<br /><br />ใบกำหนดงานที่1กิจกรรมที่1เรื่องรุ้งกินน้ำ<br />คำชี้แจง ให้นักเรียนวาดภาพรุ้งกินน้ำที่นักเรียนเห็นแล้วระบายสีให้สวยงามพร้อมบรรยายภาพและตั้งชื่อภาพ<br />รุ้งที่เกิดจากสเปรย์<br /><br /><br />รุ้งที่เกิดจากปริซึม<br /><br />สรุปผลการทดลอง.......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................<br /><br />ใบกำหนดงานที่1กิจกรรมที่2เรื่องรุ้งกินน้ำ<br />คำชี้แจง พิจารณาสถานการณ์ที่กำหนดให้แล้ววิเคราะห์หาคำตอบ<br />น้องเมย์ไปเที่ยวน้ำตกเก้าโจนขณะที่นั่งชมน้ำตกอยู่นั้นน้องเมย์ก็มองไปเห็นรุ้งกินน้ำบริเวณใกล้น้ำตก<br />1.จากสถานการณ์นักเรียนคิดว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่เพราะอะไร<br />...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................<br />2.จากสถานการณ์นี้ต้องประกอบไปด้วยปัจจัยใดบ้าง<br />....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-82175871100792138082010-03-05T04:07:00.000-08:002010-03-05T04:10:23.554-08:00แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่องการหักเหของแสงผ่านเลนส์<span style="font-size:180%;">แผนการจัดการเรียนรู้</span><br /><br />วิชา วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4<br />โรงเรียนวัดเขาวัง(แสง ช่วงสุวนิช) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 พลังงานแสง<br />แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่องการหักเหของแสงผ่านเลนส์ จำนวน 1 คาบ<br />วันที่ทำการสอนวันที่ 2 ธันวาคม 2552<br />ผู้สอน 1.นางสาวสิรินธร พรมชาติ<br /> มาตรฐาน ว 5.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับการดำรงชีวิต การแลกเปลี่ยนรูปพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์<br />1.สาระสำคัญ เลนส์คือ แก้วโปร่งใสหรือพลาสติกโปร่งใสมีผิวโค้งหนึ่งผิวหรือสองผิวซึ่งมีสมบัติในการหักเหลำแสงบริเวณตรงกลางเลนส์และขอบเลนส์มีความหนาแตกต่างกันผู้เรียนควรเรียนรู้ความหมายของเลนส์ ชนิดของเลนส์ ประโยชน์และการเลือกใช้เลนส์และการทดลองการหักเหของแสงผ่านเลนส์<br />2.สาระการเรียนรู้<br />การหักเหของแสงผ่านเลนส์<br />1. ความหมายของเลนส์<br />2. ชนิดของเลนส์<br />3. ประโยชน์และการเลือกใช้เลนส์<br />4. การทดลองการหักเหของแสงผ่านเลนส์<br /><br /><span style="font-size:180%;">3.จุดประสงค์การเรียนรู้</span><br /><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์ปลายทาง<br /></span>อธิบายการหักเหของแสงผ่านเลนส์ได้<br /><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์นำทาง</span><br />1. อธิบายความหมายของเลนส์ได้<br />2. จำแนกชนิดของเลนส์ได้<br />3. บอกประโยชน์และการเลือกใช้เลนส์ได้<br />4. ทดลองการหักเหของแสงผ่านเลนส์ได้<br /><br /><span style="font-size:130%;">4.กระบวนการเรียนรู้</span><br />1. กิจกรรมนำสู่บทเรียน<br />1.1 การจัดนักเรียนโดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 6 กลุ่ม<br />1.2 ทบทวนความรู้เดิมและนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการตั้งประเด็นคำถามดังนี้<br /> -นักเรียนรู้จักและเคยเห็นแว่นตาหรือไม่<br /> -กระจกแว่นตาทำจากอะไร<br /> -กระจกแว่นตาเป็นตัวกลางประเภทใด<br />ครูให้นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างอุปกรณ์ต่างๆที่มีเลนส์เป็นส่วนประกอบ(แว่นขยาย กล้องถ่ายรูป กล้องโทรทัศน์ กล้องส่องทางไกล)<br />1.3 อธิบายความหมายของเลนส์และชนิดของเลนส์แล้วกำหนดภาระงานให้นักเรียนเขียนลงในสมุด<br />2. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน<br />ขั้นที่1การจัดกลุ่ม<br />- ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม6กลุ่มเท่าๆกัน<br />ขั้นที่2ขั้นวางแผน<br />- สมาชิกกลุ่มร่วมกันวางแผนการทำกิจกรรม<br />ขั้นที่3ปฏิบัติตามแผน<br />-ตัวแทนกลุ่มมารับเลนส์เว้ากับเลนส์นูนจากครู<br />-ครูให้นักเรียนสังเกตลักษณะเลนส์และเปรียบเทียบกันจากนั้นให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่าถ้าแสงเคลื่อนที่ผ่านเลนส์ทั้งสองนี้จะมีการหักเหแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร<br />ขั้นที่4อธิบายขยายความรู้<br />ถามนักเรียนและอธิบายประกอบภาพ<br />-นักเรียนคิดว่าเลนส์มีประโยชน์อย่างไร<br />-การเลือกใช้เลนส์นักเรียนคิดว่าถ้าคนสายตาสั้นควรตัดแว่นที่มีเลนส์ชนิดใด<br />-การเลือกใช้เลนส์นักเรียนคิดว่าถ้าคนสายตายาวควรตัดแว่นที่มีเลนส์ชนิดใด<br />-แต่ละกลุ่มทำการทดลองและบันทึกผล<br /><br /> ขั้นที่5สรุป<br />-ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่าเมื่อแสงเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางโปร่งใสต่างชนิดกัน ทิศทางการเคลื่อนที่ของแสงเปลี่ยนและมองเห็นวัตถุนั้นผิดไปจากเดิมเราเรียกว่าการหักเหของแสง<br />-ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่าเลนส์คือ แก้วโปร่งใสหรือพลาสติกโปร่งใสมีผิวโค้งหนึ่งผิวหรือสองผิวซึ่งมีสมบัติในการหักเหลำแสงบริเวณตรงกลางเลนส์และขอบเลนส์มีความหนาแตกต่างกันซึ่งเลนส์มี2ชนิดคือเว้าและนูน<br />คนสายตาสั้นควรใส่แว่นที่ทำจากเลนส์เว้าส่วนคนสายตายาวควรใส่แว่นที่ทำจากเลนส์นูน<br />-เลนส์นูนจะรวมแสงส่วนเลนส์เว้าจะกระจายแสง<br /><br />5.สื่อการสอน/แหล่งเรียนรู้<br />1. หนังสือวิทยาศาสตร์ ป.4<br />2. ภาพการหักเหของแสงผ่านเลนส์<br />3. เลนส์เว้าและเลนส์นูน<br />4. ใบกิจกรรมที่1การหักเหของแสงผ่านเลนส์<br /><br />6.การวัดผล<br />1. วัดผลการอธิบายความหมายของเลนส์ด้วยการตรวจผลการอธิบายความหมายของเลนส์ตามการตอบคำถามโดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br />2. วัดผลการจำแนกชนิดของเลนส์จากใบกำหนดงานที่1โดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br />3. วัดผลการบอกประโยชน์และการเลือกใช้เลนส์ด้วยการถาม-ตอบและใบกำหนดงาน<br /> ที่1โดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br /><br />7.ประเมินผล<br />1. ประเมิลผลการอธิบายความหมายของเลนส์พบว่านักเรียน.....คนอธิบายความหมายของเลนส์ไม่ได้แก้ไขด้วยการอธิบายให้ฟังอีกรอบ<br />2. ประเมิลผลการจำแนกชนิดของเลนส์พบว่านักเรียน.....คนจำแนกชนิดของเลนส์ไม่ได้แก้ไขด้วยการให้นักเรียนในชั้นช่วยจำแนกให้ฟัง<br />3. ประเมิลผลการทดลองการหักเหของแสงผ่านเลนส์พบว่านักเรียน.....คนทดลองการหักเหของแสงผ่านเลนส์ไม่ได้แก้ไขด้วยการทำการทดลองให้ดูอีกรอบ<br /><br />บันทึกผลหลังสอน<br />…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………<br /><br />ใบกิจกรรมที่1การหักเหของแสงผ่านเลนส์<br />จุดประสงค์ เพื่อศึกษาการหักเหของแสงผ่านเลนส์นูนและเลนส์เว้า<br />อุปกรณ์<br />1.เลนส์นูน 1 อัน<br />2.เลนส์เว้า 1 อัน<br />3.กระดาษสีดำ<br />4.ไฟฉาย<br />วิธีทำ<br />1.ให้ทำการทดลองในห้องเรียนโดยนำกระดาษสีดำวางบนพื้นแล้วยกเลนส์นูนขึ้นรับแสงโดยให้แนวลำแสงผ่านเลนส์ลงบนกระดาษสีดำแล้วสังเกตแนวลำแสงบนกระดาษ<br />2.ทำเหมือนข้อ1 แต่ให้เปลี่ยนเป็นเลนส์เว้า<br />บันทึกผล<br />วาดภาพเมื่อแสงผ่านเลนส์นูน วาดภาพเมื่อแสงผ่านเลนส์เว้า<br />สรุปผลการทดลอง<br />1.เมื่อนำเลนส์นูนรับแสงลำแสงในกระดาษมีลักษณะอย่างไร<br />...........................................................................................................................................<br />2.เมื่อนำเลนส์เว้ารับแสงลำแสงในกระดาษมีลักษณะอย่างไร<br />...........................................................................................................................................<br />3.ลำแสงเมื่อผ่านเลนส์นูนและเลนส์เว้ามีลักษณะเหมือนกัน หรือ ต่างกัน<br />คือ......................................................................................................................................................................................................................................................................................<br /><br />แบบประเมินผลงานสมุดบันทึกความรู้<br />กลุ่มที่(ชื่อกลุ่ม)...............................................................................................................<br />สมาชิกในกลุ่ม<br />1. 2.<br />3. 4.<br />5. 6.<br />7. 8.<br /><br />คำชี้แจง: ให้ผู้ประเมินขีด /ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน (ตามเกณฑ์)<br />ประเด็นที่ประเมิน<br />ผู้ประเมิน<br />ตนเอง<br />เพื่อน<br />ครู<br />4<br />3<br />2<br />1<br />4<br />3<br />2<br />1<br />4<br />3<br />2<br />1<br />1.ตรงจุดประสงค์ที่กำหนด<br /><br />2.มีความถูกต้องสมบูรณ์<br /><br />3.มีความคิดสร้างสรรค์<br /><br />4.มีความเป็นระเบียบ<br /><br />รวม<br /><br />รวมทุกรายการ<br /><br />เฉลี่ย<br /><br /><br /><br /> ผู้ประเมิน.......................................(ตนเอง)<br /> ผู้ประเมิน.......................................(เพื่อน)<br /> ผู้ประเมิน.......................................(ครู)<br /><br /><br /><br /><br /><br />แบบประเมินทักษะในการปฏิบัติการทดลอง<br />วิชา ชั้น<br />หน่วยการเรียนรู้ที่ กิจกรรม<br />คำชี้แจง: ให้ผู้สอนประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนในการปฏิบัติกิจกรรม ทดลองโดยให้ระดับคะแนนลงในตารางที่ตรงกับพฤติกรรมของผู้เรียน<br />เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ต้องปรับปรุง<br /><br /><br /><br />เลขที่<br />ชื่อ สกุล<br />รายการประเมิน<br />รวม12คะแนน<br />สรุปการประเมิน<br />วิธีดำเนินการทดลอง<br />การปฏิบัติการทดลอง<br />ความคล่องแคล่วในการทำการทดลอง<br />การนำเสนอ<br />คะแนนที่ทำได้<br />ผ่าน<br />ไม่ผ่าน<br /><br /><br /> ลงชื่อ....................................ผู้ประเมิน<br /> …../……./……<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม<br />กลุ่มที่(ชื่อกลุ่ม)..................................................................................................................<br />สมาชิกในกลุ่ม1. 2.<br />3. 4. <br />5. 6.<br />7. 8.<br /><br /><br />คำชี้แจง: ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย / ในช่องที่ตรงกับความเป็นจริง<br />พฤติกรรมที่สังเกต<br />คะแนน<br />3<br />2<br />1<br />1.มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น<br /><br />2.มีความกระตือรือร้นในการทำงาน<br /><br />3.รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย<br /><br />4.มีขั้นตอนในการทำงานอย่างเป็นระบบ<br /><br />5.ใช้เวลาในการทำงานอย่างเหมาะสม<br /><br />รวม<br /><br />เกณฑ์การให้คะแนน<br /> พฤติกรรมที่ทำเป็นประจำ ให้ 3 คะแนน<br /> พฤติกรรมที่ทำเป็นบางครั้ง ให้ 2คะแนน<br /> พฤติกรรมที่ทำน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน<br />เกณฑ์การให้คะแนน<br />ช่วงคะแนน<br />ระดับคุณภาพ<br />13-15<br />ดี<br />8-12<br />ปานกลาง<br />5-7<br />ปรับปรุงatomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-24388414711926091352010-03-05T04:04:00.000-08:002010-03-05T04:06:54.354-08:00แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่องการหักเหของแสง<span style="font-size:180%;">แผนการจัดการเรียนรู้</span><br /><br />วิชา วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4<br />โรงเรียนวัดเขาวัง(แสง ช่วงสุวนิช) หน่วยการเรียนรู้ที่4 พลังงานแสง<br />แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่องการหักเหของแสง จำนวน 1 คาบ<br />วันที่ทำการสอนวันที่ 23 พฤศจิกายน 2552<br />ผู้สอน 1.นางสาวสิรินธร พรมชาติ<br /><br /> มาตรฐาน ว 5.1เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับการดำรงชีวิต การแลกเปลี่ยนรูปพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์<br />สาระสำคัญ การหักเหของแสงคือการที่แสงเคลื่อนผ่านตัวกลางโปร่งใส2ชนิดที่แตกต่างกันและมีการเปลี่ยนแปลงแนวการเคลื่อนที่ของแสง ผู้เรียนควรเรียนรู้ความหมายของการหักเหของแสง กฎการหักเหของแสง การหักเหของแสงผ่านเลนส์ ชนิดของเลนส์ปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหักเหของแสงและการทดลองการหักเหของแสง <br /><br /><span style="font-size:130%;">สาระการเรียนรู้</span><br />การหักเหของแสง<br />1. ความหมายของการหักเหของแสง<br />2. กฎการหักเหของแสง<br />3. ปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหักเหของแสง<br />4. การทดลองการหักเหของแสง<br /><br /><span style="font-size:180%;">จุดประสงค์การเรียนรู้ </span><br /><span style="font-size:180%;"><br /></span><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์ปลายทาง</span><br />นักเรียนอธิบายการหักเหของแสงได้<br /><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์นำทาง</span><br />1. นักเรียนอธิบายความหมายของการหักเหของแสงได้<br />2. นักเรียนบอกกฎการหักเหของแสงได้<br />3. นักเรียนบอกปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหักเหของแสงได้<br />4. นักเรียนทดลองการหักเหของแสงได้<br /><br /><span style="font-size:130%;">กระบวนการเรียนรู้</span><br /><br />1. กิจกรรมนำสู่บทเรียน<br />1.1 การจัดทำนักเรียนโดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 6 กลุ่ม<br />1.2 ทบทวนความรู้เดิมและนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการตั้งประเด็นคำถามดังนี้<br />-นักเรียนรู้จักการหักเหของแสงหรือไม่<br />-นักเรียนเคยมองปลาผ่านตูกระจกหรือไม่<br />-นักเรียนเคยไปยืนในสระน้ำหรือไม่แล้วสังเกตขาตัวเองแตกต่างจากเดิมอย่างไร<br />-นักเรียนเคยเล่นเหรียญในน้ำหรือไม่ ลักษณะเหรียญเป็นอย่างไร<br />จากนั้นครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้<br />1.3 อธิบายความหมายและกฎการหักเหของแสงและวาดรูปให้ดูแล้วกำหนดภาระงานให้นักเรียนเขียนลงในสมุด<br /><br />2. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน<br />2.1 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม6กลุ่มเท่าๆกัน<br />2.2 ครูและนักเรียนร่วมกันทำการทดลองและบันทึกผลการทดลองลงในสมุด<br />2.3 นักเรียนร่วมกันนำข้อมูลที่ได้มาอภิปรายเพื่อหาข้อสรุป<br /><br />3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป<br />3.1 นักเรียนส่งตัวแทน1คนมานำเสนอผลการทดลอง<br />3.2 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าเมื่อแสงเดินทางผ่านอากาศไปยังแก้วทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแนวการเคลื่อนที่ของแสง<br />3.3 ครูถามนักเรียนว่าอากาศและแก้วจัดเป็นตัวกลางชนิดใดซึ่งนักเรียนควรตอบได้ว่าตัวกลางโปร่งใส<br />3.4 นักเรียนสรุปหลักการหักเหของแสงพร้อมกันว่าเมื่อแสงเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางโปร่งใสต่างชนิดกัน ทิศทางการเคลื่อนที่ของแสงเปลี่ยนเรียกว่าการหักเหของแสงล<br /><br />4.ขั้นขยายความรู้<br />1. ครูซักถามนักเรียนว่าการหักเหของแสงทำให้เกิดการมองเห็นภาพเปลี่ยนแปลงจากเดิมในลักษณะใดบ้าง<br />2. ครูซักถามนักเรียนว่านักเรียนเห็นเหรียญมีขนาดใหญ่เพราะอะไร<br />3. ครูซักถามนักเรียนว่านักเรียนเห็นปลาในน้ำอยู่ตื้นกว่าปกติเพราะว่าอะไร<br />4. ครูซักถามนักเรียนว่าเห็นหลอดที่อยู่ในแก้วงอผิดไปจากเดิมเพราะอะไร<br />5. ครูซักถามว่าปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหักเหของแสงมีอะไรบ้าง<br /><br />5. ขั้นสรุป<br />เมื่อแสงเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางโปร่งใสต่างชนิดกัน ทิศทางการเคลื่อนที่ของแสงเปลี่ยนและมองเห็นวัตถุนั้นผิดไปจากเดิมเราเรียกว่าการหักเหของแสง<br /><br />6.การวัดผล<br />1. วัดผลการอธิบายความหมายของการหักเหของแสง จากการอธิบายในสมุดโดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br />2. วัดผลการบอกกฎการหักเหของแสงจากการถามนักเรียนโดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br />3. วัดผลการบอกปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหักเหของแสงจากการถามนักเรียนโดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br />4. วัดผลการทดลองการหักเหของแสงจากชิ้นงานและภาพที่นักเรียนวาดโดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br /><br />ประเมินผล<br />1. ประเมิลผลการความหมายของการหักเหของแสง อธิบายพบว่านักเรียน.....คนอธิบายความหมายของการหักเหของแสง ไม่ได้แก้ไขด้วยการอธิบายให้ฟังอีกรอบ<br />2. ประเมิลผลการบอกกฎการหักเหของแสงพบว่านักเรียน.....คนบอกกฎการหักเหของแสงไม่ได้แก้ไขด้วยการอธิบายให้ฟังอีกรอบ<br />3. ประเมิลผลการบอกปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหักเหของแสงพบว่านักเรียน.....คนบอกกฎการหักเหของแสงไม่ได้แก้ไขด้วยการอธิบายให้ฟังอีกรอบ<br />4. ประเมิลผลการทดลองการหักเหของแสงพบว่านักเรียน.....คนทดลองการหักเหของแสงไม่ได้แก้ไขด้วยการทดลองอีกรอบ<br />สื่อการสอน<br />1.หนังสือวิทยาศาสตร์ ป.4<br />2.อุปกรณ์การทดลอง<br /><br />บันทึกผลหลังสอน<br />…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-21302282667749689342010-03-05T04:01:00.000-08:002010-03-05T04:03:59.943-08:00แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การสะท้อนของแสง<span style="font-size:180%;">แผนการจัดการเรียนรู้</span><br /><span style="font-size:180%;"></span><br />วิชา วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4<br />โรงเรียนวัดเขาวัง(แสง ช่วงสุวนิช) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 พลังงานแสง<br />แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การสะท้อนของแสง จำนวน 1 คาบ<br />วันที่ทำการสอนวันที่ 5 พฤศจิกายน 2552<br />ผู้สอน 1.นางสาวสิรินธร พรมชาติ<br /><br /> มาตรฐาน ว 5.1เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับการดำรงชีวิต การแลกเปลี่ยนรูปพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์<br />สาระสำคัญ การสะท้อนของแสงคือการที่แสงเปลี่ยนทิศการเคลื่อนที่กลับมาสู่ตัวกลางเดิมเมื่อแสงเคลื่อนที่ไปถึงแนวเขตระหว่างตัวกลาง2ตัวกลางโดยจะศึกษาความหมายของการสะท้อนของแสง กฎการสะท้อนของแสง การทดลองการสะท้อนของแสง<br /><br /><span style="font-size:130%;">สาระการเรียนรู้</span><br /><span style="font-size:130%;"><br /></span>การสะท้อนของแสง<br />1. ความหมายของการสะท้อนของแสง<br />2. กฎการสะท้อนของแสง<br />3. การทดลองการสะท้อนของแสง<br /><br /><span style="font-size:180%;">จุดประสงค์การเรียนรู้</span><br /><span style="font-size:180%;"><br /></span><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์ปลายทาง</span><br />นักเรียนอธิบายการสะท้อนของแสงได้<br /><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์นำทาง<br /></span>1. นักเรียนอธิบายความหมายของการสะท้อนของแสงได้<br />2. นักเรียนบอกกฎการสะท้อนของแสงได้<br />3. นักเรียนทดลองการสะท้อนของแสงได้<br /><br /><span style="font-size:130%;">กระบวนการเรียนรู้</span><br />1. กิจกรรมนำสู่บทเรียน<br />1.1 การจัดทำนักเรียนโดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่ม<br />1.2 ทบทวนความรู้เดิมและนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการตั้งประเด็นคำถามดังนี้<br /> -นักเรียนเคยเล่นสะท้อนแสงหรือไม่<br /> -วัตถุชนิดใดที่สะท้อนแสงได้บ้าง<br /> จากนั้นครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้<br />1.3 อธิบายความหมายและกฎการสะท้อนของการสะท้อนของแสงแล้วกำหนดภาระงานให้นักเรียนเขียนความหมายลงในสมุด<br /><br />2. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน<br />2.1 ครูวาดรูปบนกระดาน แล้วถามนักเรียนว่า2มุมนี้เท่ากันหรือไม่และแต่ละเส้นนี้เรียกว่าอะไร<br />2.2 ครูอธิบายจากตัวอย่างที่วาดแล้วถามนักเรียนว่าเส้นที่แสงไฟส่องนี้เรียกว่ารังสีตกกระทบส่วนเส้นที่แสงออกมานั้นเรียกว่ารังสีสะท้อนและเส้นที่แบ่งครึ่งเราเรียกว่าเส้นปกติ<br />2.3 ครูเขียนบนกระดานให้นักเรียนจดลงสมุดว่า<br />ลำแสงตกกระทบ คือแนวลำแสงจากแหล่งกำเนิดที่กระทบวัตถุ<br />ลำแสงสะท้อน คือแนวลำแสงที่สะท้อนออกจากวัตถุ<br />เส้นปกติ คือเส้นที่ตั้งฉากกับผิววัตถุที่ตำแหน่งแนวลำแสงตกกระทบวัตถุ<br />มุมตกกระทบ คือมุมระหว่างแนวลำแสงตกกระทบกับเส้นปกติ<br />มุมสะท้อน คือมุมระหว่างแนวลำแสงสะท้อนกับเส้นปกติ<br />2.4 ครูวาดรูปให้นักเรียนดูแล้วถามนักเรียนว่านี่คือรูปอะไรแล้วแตกต่างกันตรงไหน<br />2.5 ครูอธิบายจากภาพ<br />2.6 ครูทดลองให้นักเรียนดูทีละกลุ่มแล้วให้นักเรียนบันทึกลงในตารางบันทึกผล<br /><br />3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป<br />3.1 ครูสุ่มนักเรียนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน<br />3.2 นักเรียนในชั้นร่วมกันอภิปรายและสรุปได้ว่า<br />-การทดลองเป็นไปตามกฎการสะท้อน<br />-วัตถุที่สะท้อนได้ดีคือวัตถุที่ทึบและมีผิวมันเรียบ<br />3.3 ครูอธิบายว่าถ้าวัตถุที่มีผิวมันเรียบจะสะท้อนเป็นระเบียบส่วนวัตถุที่ขรุขระจะสะท้อนไม่เป็นระเบียบ<br /><br />4. ขั้นขยายความรู้<br />4.1 ครูอธิบายการสะท้อนของแสงทำให้มองเห็นวัตถุต่างๆได้จึงมีการนำหลักการสะท้อนของแสงมาใช้ประโยชน์เช่นการติดตั้งกระจกนูนตามทางแยกช่วยให้มองเห็นภาพสะท้อนได้กว้าง<br />4.2 มอบภาระงานให้นักเรียนทำตารางบันทึกผลการทดลองและวาดภาพ<br /><br />5. ขั้นสรุป<br /> ครูให้นักเรียนสรุปลงสมุดเกี่ยวกับความหมายของการสะท้อนและข้อแตกต่างระหว่างวัตถุที่มีผิวมันเรียบกับผิวขรุขระและผลการทดลอง<br /><br />6.การวัดผล<br />1. วัดผลการอธิบายความหมายของการสะท้อนของแสงจากการบันทึกในสมุด โดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br />2. วัดผลการบอกกฎการสะท้อนของแสงจากใบกำหนดงานที่1กิจกรรมที่2 โดยยึดเกณฑ์<br />ได้ถูกต้อง<br />3. วัดผลการทดลองการสะท้อนของแสงจากใบกำหนดงานที่1กิจกรรมที่1โดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br /><br />7.ประเมินผล<br />1. ประเมิลผลการอธิบายความหมายของการสะท้อนของแสง พบว่านักเรียน.....คนอธิบายความหมายของการสะท้อนของแสง ไม่ได้แก้ไขด้วยการอธิบายให้ฟังอีกรอบ<br />2. ประเมิลผลการบอกกฎการสะท้อนของแสงพบว่านักเรียน.....คนการบอกกฎการสะท้อนของแสงไม่ได้แก้ไขด้วยการอธิบายให้ฟังอีกรอบ<br />3. ประเมิลผลการทดลองการสะท้อนของแสงพบว่านักเรียน.....คนการทดลองการสะท้อนของแสงไม่ได้แก้ไขด้วยการทดลองให้ดู<br /><br />สื่อการสอน<br />1. หนังสือวิทยาศาสตร์ ป.4<br />2. อุปกรณ์การทดลอง<br />3. ใบกำหนดงานที่1เรื่องการสะท้อนของแสง<br /> บันทึกผลหลังสอน<br />…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />ใบกำหนดงานที่1เรื่องการสะท้อนของแสง<br />ตารางบันทึกผลการทดลอง<br />วัตถุที่ทำการทดลอง<br />ลักษณะแสงที่ปรากฏ<br />บนวัตถุ<br />บนกระดาษขาว<br />1.กระจกใส<br /><br /><br />2.ผ้าขนหนู<br /><br /><br />3.กระดาษแข็ง<br /><br /><br />4.กระดาษฟอยด์<br /><br /><br /><br />ใบกำหนดงานที่ 2 เรื่องการสะท้อนของแสง<br />วาดภาพลำแสงเมื่อกระทบกระจกเงาและสะท้อนกลับ<br /><br /><br />สรุปผลการทดลอง<br />………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-76899972243411126312010-03-05T03:50:00.000-08:002010-03-05T03:59:36.834-08:00แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่องตัวกลางของแสง<span style="font-size:180%;">แผนการจัดการเรียนรู้</span> <span style="font-size:180%;"><br /></span>วิชา วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4<br />โรงเรียนวัดเขาวัง(แสง ช่วงสุวนิช) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 พลังงานแสง<br />แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่องตัวกลางของแสง จำนวน 1 คาบ<br />วันที่ทำการสอนวันที่ 5 พฤศจิกายน 2552<br /><br />มาตรฐาน ว 5.1เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับการดำรงชีวิต การแลกเปลี่ยนรูปพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์<br />สาระสำคัญ ตัวกลางคือสิ่งที่อยู่ระหว่างดวงตาของเรากับแหล่งกำเนิดแสงซึ่งแสงจะเดินทางผ่านตัวกลางชนิดต่างๆเช่น อากาศ กระจก ผ้า กระดาษ แผ่นไม้ ตัวกลางบางชนิดมีสมบัติในการยอมให้แสงผ่านต่างกันโดยเรียนรู้จากตัวกลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสง วัตถุทึบแสง<br /><br /><span style="font-size:130%;">สาระการเรียนรู้<br /></span>ตัวกลางของแสง<br />1. ความหมายของตัวกลาง<br />2. ประเภทของตัวกลาง<br />3. ทดลองชนิดของตัวกลาง<br /><br /><span style="font-size:180%;">จุดประสงค์การเรียนรู้</span><br /><span style="font-size:180%;"></span><br /><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์ปลายทาง<br /></span>นักเรียนอธิบายตัวกลางของแสงได้ถูกต้อง<br /><br /><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์นำทาง<br /></span>1. นักเรียนอธิบายความหมายของตัวกลางของแสงได้ถูกต้อง<br />2. นักเรียนบอกประเภทของตัวกลางได้ถูกต้อง<br />3. นักเรียนทดลองชนิดของตัวกลางได้ถูกต้อง<br /><br /><span style="font-size:130%;">กระบวนการเรียนรู้<br /></span>1. กิจกรรมนำสู่บทเรียน<br />1.1 การจัดทำนักเรียนโดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่มด้วยวิธีนับ1-5<br />1.2 ทบทวนความรู้เดิมและนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการตั้งประเด็นคำถามดังนี้<br />-ถ้าเอาถุงพลาสติกแบบขุ่นมาให้นักเรียนมองผ่านนักเรียนคิดว่าจะมองเห็นสิ่งต่างๆ แตกต่างกันหรือไม่<br />-ครูสุ่มนักเรียนออกมามองสิ่งต่างๆผ่านถุงทั้ง2ชนิดแล้วบอกเพื่อนว่าแตกต่างกันหรือไม่<br />-ถุงพลาสติกทั้ง 2ใบนี้เราเรียกมันว่าอะไร<br />-นักเรียนคิดว่าตัวกลางแต่ละชนิดมีสมบัติในการยอมให้แสงผ่านไปได้แตกต่างกันหรือไม่<br />1.3 อธิบายความหมายของตัวกลางของแสงแล้วกำหนดภาระงานให้นักเรียนเขียนความหมายลงในสมุด<br /><br />2.กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน<br />2.1 ครูวาดรูปบนกระดาน 2 รูปแล้วถามนักเรียนว่าระหว่างรูป 2รูปนี้นักเรียนเห็นอะไร<br />2.2 ครูอธิบายจากตัวอย่างที่วาดแล้วถามนักเรียนว่าตัวกลางมีกี่ประเภทอะไรบ้างแล้วอธิบายเพิ่มเติม<br />2.3 ครูให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมาทำการทดลองร่วมกับครูเรื่องชนิดของตัวกลางโดยให้สมาชิกที่เหลือสังเกตแล้วจดบันทึก<br /><br />3.ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป<br />3.1 ครูสุ่มนักเรียนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน<br />3.2 นักเรียนในชั้นร่วมกันอภิปรายและสรุปได้ว่า<br />ตัวกลางที่นำมากั้นแสงแล้วมองเห็นชัดเจนคือ..................<br />ตัวกลางที่นำมากั้นแสงแล้วมองเห็นบ้างคือ......................<br />ตัวกลางที่นำมากั้นแสงแล้วมองไม่เห็นคือ........................<br />3.3 ครูอธิบายว่าสมบัติของตัวกลางที่ยอมให้แสงผ่านได้ทั้งหมดคือ……………….<br />ตัวกลางที่ยอมให้แสงผ่านได้บ้างบางส่วนคือ......................<br />ตัวกลางที่ ไม่ยอมให้ผ่านคือ................................................<br /><br />4.ขั้นขยายความรู้<br />4.1 ครูอธิบายวัตถุทึบแสงว่าเมื่อมันไม่ยอมให้แสงผ่านไปได้แสงทั้งหมดก็จึงตกอยู่ที่วัตถุมันจึงเกิดเงาขึ้นตามรูปร่างของวัตถุนั้นๆ<br />4.2 ครูอธิบายเงามืดกับเงามัว<br />4.3 ครูพาทำมือเป็นรูปสัตว์ต่างๆพร้อมเพลงประกอบ<br /><br />5. ขั้นสรุป<br />ครูให้นักเรียนสรุปลงสมุดเกี่ยวกับความหมาย ประเภทและผลการทดลอง<br /><br />6.การวัดผล<br />1. วัดผลการอธิบายความหมายของตัวกลางของแสงจากการอธิบายในสมุด โดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br />2. วัดผลการบอกประเภทของตัวกลาง จากการบอกในสมุดโดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br />3. วัดผลการทดลองชนิดของตัวกลางจากใบกำหนดงานที่1เรื่องตัวกลางของแสง<br />โดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br /><br />7.ประเมินผล<br />1. ประเมิลผลการอธิบายความหมายของตัวกลางของแสง พบว่านักเรียน.....คนอธิบายความหมายของตัวกลางของแสง ไม่ได้แก้ไขด้วยการอธิบายให้ฟังอีกรอบ<br />2. ประเมิลผลการบอกประเภทของตัวกลาง พบว่านักเรียน.....คนบอกประเภทของตัวกลาง ไม่ได้แก้ไขด้วยการอธิบายให้ฟังอีกรอบ<br />3. ประเมิลผลการ ทดลองชนิดของตัวกลางพบว่านักเรียน.....คนทดลองชนิดของตัวกลาง ไม่ได้แก้ไขด้วยการอธิบายให้ฟังอีกรอบ<br /><br /><span style="font-size:130%;">สื่อและแหล่งการเรียนรู้<br /></span>1.1 หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ป.4<br />1.2 ประเด็นคำถาม<br />1.3 อุปกรณ์ในการทดลอง<br />บันทึกผลหลังสอน<br />……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………<br /><br />ใบกำหนดงานที่1เรื่องตัวกลางของแสง<br />ตารางบันทึกผลการทดลอง<br />ชนิดของตัวกลาง<br />แสงผ่านตัวกลาง<br />ลักษณะของแสงที่ทะลุผ่านตัวกลางมา<br />ผ่านได้ดี<br />ผ่านได้บ้าง<br />ผ่านไม่ได้<br />1.กระจกใส<br /><br />2.ผ้า<br /><br />3.พลาสติกใส<br /><br />4.กระจกฝ้า<br /><br />5.แผ่นไม้<br /><br />6.แผ่นกระดาษ<br /><br />7.แก้วใส<br /><br />บันทึกผลการทดลอง<br />..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-6936705815087189402010-03-05T03:40:00.000-08:002010-03-05T03:49:28.534-08:00แผนการสอน<div align="left"><br /><span style="font-size:180%;">แผนการจัดการเรียนรู้<br /></span>วิชา วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4<br />โรงเรียนวัดเขาวัง(แสง ช่วงสุวนิช) หน่วยการเรียนรู้ที่4 พลังงานแสง<br />แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การเคลื่อนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิด จำนวน 1 คาบ<br />วันที่ทำการสอนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2552<br />ผู้สอน 1.นางสาวสิรินธร พรมชาติ<br /> มาตรฐาน ว 5.1เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับการดำรงชีวิต การแลกเปลี่ยนรูปพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์<br />สาระสำคัญ แสงเป็นพลังงานรูปหนึ่งที่เราสามารถรับรู้ได้ด้วยตา แสงอาจมีแหล่งกำเนิดจากธรรมชาติหรือจากอุปกรณ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง<br />สาระการเรียนรู้<br />การเคลื่อนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิด<br />1. แหล่งกำเนิดแสง<br />2.การเดินทางของแสง</div><div align="left"><br /><span style="font-size:180%;">จุดประสงค์การเรียนรู้</span></div><span style="font-size:180%;"></span><div align="left"><br /><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์ปลายทาง</span><br />นักเรียนอธิบายการการเคลื่อนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิดได้ถูกต้อง<br /><span style="font-size:130%;">จุดประสงค์นำทาง<br /></span>1.นักเรียนอธิบายแหล่งกำเนิดแสงได้ถูกต้อง<br />2.นักเรียนทดลองการเดินทางของแสงได้ถูกต้อง<br /><br /><br /><br /><br /><span style="font-size:130%;">กระบวนการเรียนรู้<br /></span>1. ขั้นอธิบายการแหล่งกำเนิดแสง<br />1.1การจัดทำนักเรียนโดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่มด้วยวิธีนับ1-5<br />1.2ทบทวนความรู้เดิมและนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการตั้งประเด็นคำถามดังนี้<br />-นักเรียนคิดว่าเรามองเห็นสิ่งต่างๆได้เพราะอะไร<br />-สิ่งที่ให้แสงสว่างเราเรียกว่าอะไร<br />-แหล่งกำเนิดแสงมาจากไหนบ้าง<br />1.3อธิบายแหล่งกำเนิดแสงและวาดภาพแหล่งกำเนิดแสงแล้วกำหนดภาระงานให้นักเรียนช่วยกันระดมความคิดลงในใบกำหนดงานที่1กิจกรรมที่1เรื่องแหล่งกำเนิดแสงและกระดาษเอ4ที่ครูให้<br /><br /><span style="font-size:180%;">ใบกำหนดงานที่1 </span>เรื่องการเคลื่อนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิด</div><div align="left"><br /><span style="font-size:130%;">กิจกรรมที่1</span>แหล่งกำเนิดแสง<br />ให้นักเรียนเขียนคำตอบที่ถูกต้องลงในตารางที่กำหนดให้<br />แหล่งกำเนิดแสงตามธรรมชาติ<br />แหล่งกำเนิดแสงที่มนุษย์สร้างขึ้น<br /><br />1.4ปฏิบัติภาระงานตามใบกำหนดงานที่1เรื่องแหล่งกำเนิดแสง<br />1.5นำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนโดยส่งตัวแทนกลุ่มออกไปนำเสนอ<br />1.6สะท้อนความคิดโดยการตั้งประเด็นคำถามขึ้นมาถามนักเรียนว่าสิ่งที่นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาอธิบายแหล่งกำเนิดแสงนั้น มีอะไรบ้าง<br />1.7ประเมินผล สรุปผล และเพิ่มเติมเนื้อหา<br /><br /><span style="font-size:130%;">2ขั้นทดลองการเปลี่ยนแปลงของวัตถุ</span><br />2.1การจัดทำนักเรียนโดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่มด้วยวิธีนับ1-5<br />2.2นำเสนอสื่อโดยการนำอุปกรณ์การทดลองมาให้นักเรียนดู<br />2.3ทดลองการเดินทางของแสงแล้วกำหนดภาระงานให้นักเรียนทดลองแล้วสังเกตและบันทึกผลลงในใบกำหนดงานที่1กิจกรรมที่2 เรื่องทดลองการเดินทางของแสง<br />ใบกำหนดงานที่1เรื่องการเคลื่อนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิด</div><div align="left"><br /><span style="font-size:130%;">กิจกรรมที่2</span>ทดลองการการเดินทางของแสง<br />ตารางบันทึกผลการทดลอง<br />ลักษณะการตั้งแผ่นกระดาษ<br />ผลการสังเกตเปลวเทียนไขผ่านรูบนแผ่นกระดาษ<br /><br />เห็น<br />ไม่เห็น<br />1.รูบนแผ่นกระดาษทั้ง 3 แผ่นตรงกัน<br /><br /><br />2.เมื่อเลื่อนแผ่นกระดาษแผ่นที่1<br /><br /><br />3.นำกระดาษแผ่นที่1ออก<br /><br /><br />4.เมื่อเลื่อนกระดาษแผ่นที่2<br /><br /><br />5.นำกระดาษแผ่นที่2ออก<br /><br /><br />6.เมื่อเลื่อนกระดาษแผ่นที่3<br /><br /><br />7.นำกระดาษแผ่นที่3ออก<br /><br /><br />สรุปผลการทดลอง......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................<br />2.4ปฏิบัติภาระงานที่กำหนดร่วมกันตามใบกำหนดงานที่1กิจกรรมที่2เรื่องทดลองการเดินทางของแสง<br />2.5นำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนโดยส่งตัวแทนกลุ่มออกไปนำเสนอ<br />2.6สะท้อนความคิดโดยการตั้งประเด็นคำถามขึ้นมาถามนักเรียนว่านักเรียนต้องวางกระดาษอย่างไรจึงมองเห็นเปลวเทียนและทำอย่างไรจึงมองไม่เห็นเปลวเทียน<br />2.7 ประเมินผล สรุปผล และเพิ่มเติมเนื้อหา <br /><br /><br />การวัดผล<br />1.วัดผลการอธิบายแหล่งกำเนิดแสงด้วยการตรวจผลการอธิบายแหล่งกำเนิดแสงและวาดภาพแหล่งกำเนิดแสงตามใบกำหนดงานที่1กิจกรรมที่1โดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br />2.วัดผลการทดลองการเดินทางของแสงจากใบกำหนดงานที่1กิจกรรมที่2 โดยยึดเกณฑ์ได้ถูกต้อง<br /><br />ประเมินผล<br />1.ประเมิลผลการอธิบายแหล่งกำเนิดแสงพบว่านักเรียน.....คนอธิบายแหล่งกำเนิดแสงไม่ได้แก้ไขด้วยการอธิบายให้ฟังอีกรอบ<br />2.ประเมิลผลการทดลองการเดินทางของแสงพบว่านักเรียน.....คนทดลองการเดินทางของแสงไม่ได้แก้ไขด้วยการอธิบายให้ฟังอีกรอบ<br /><br /><span style="font-size:130%;">สื่อและแหล่งการเรียนรู้</span><br />1.1หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ป.4<br />1.2ประเด็นคำถาม<br />1.3ใบกำหนดงานที่1กิจกรรมที่1<br />2.1หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ป.4<br />2.2 ประเด็นคำถาม/อุปกรณ์ทดลอง<br />2.3.ใบกำหนดงานที่1กิจกรรมที่2<br />บันทึกผลหลังสอน<br />…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………<br /><br /><br /><span style="font-size:130%;">ใบกำหนดงานที่1</span>เรื่องการเคลื่อนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิด</div><div align="left"> </div><div align="left"><span style="font-size:130%;">กิจกรรมที่1</span>แหล่งกำเนิดแสง<br />ให้นักเรียนเขียนคำตอบที่ถูกต้องลงในตารางที่กำหนดให้<br />แหล่งกำเนิดแสงตามธรรมชาติ<br />แหล่งกำเนิดแสงที่มนุษย์สร้างขึ้น<br /><br />ใบกำหนดงานที่1เรื่องการเคลื่อนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิด</div><div align="left"><br /><span style="font-size:130%;">กิจกรรมที่2 </span>ทดลองการการเดินทางของแสง<br />ตารางบันทึกผลการทดลอง<br />ลักษณะการตั้งแผ่นกระดาษ<br />ผลการสังเกตเปลวเทียนไขผ่านรูบนแผ่นกระดาษ<br /><br /><br />เห็น<br />ไม่เห็น<br />1.รูบนแผ่นกระดาษทั้ง 3 แผ่นตรงกัน<br /><br /><br />2.เมื่อเลื่อนแผ่นกระดาษแผ่นที่1<br /><br /><br />3.นำกระดาษแผ่นที่1ออก<br /><br /><br />4.เมื่อเลื่อนกระดาษแผ่นที่2<br /><br /><br />5.นำกระดาษแผ่นที่2ออก<br /><br /><br />6.เมื่อเลื่อนกระดาษแผ่นที่3<br /><br /><br />7.นำกระดาษแผ่นที่3ออก<br /><br /><br />สรุปผลการทดลอง.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................<br /> </div>atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-8516452854249009772009-10-15T23:35:00.000-07:002009-10-17T02:36:52.855-07:00<a href="http://banjombueng.blogspot.com/"><span style="color:#ffffff;">นางสาวกนกรัตน์ ณะจินดา</span></a><span style="color:#ffffff;"><br /></span><a href="http://toom-sang.blogspot.com/"><span style="color:#ffffff;">นางสาวกรกมล ทองยอด</span></a><span style="color:#ffffff;"><br /></span><a href="http://nattaya001.blogspot.com/"><span style="color:#ffffff;">นางสาวนาตยา แซ่เตียว</span></a><span style="color:#ffffff;"><br /></span><a href="http://paweena18.blogspot.com/"><span style="color:#ffffff;">นางสาวปวีณา รอดเจริญ</span></a><span style="color:#ffffff;"><br /></span><a href="http://ladawan20.blogspot.com/"><span style="color:#ffffff;">นางสาวลดาวัลย์ร่งเรือง</span></a><span style="color:#ffffff;"><br /></span><a href="http://noi-chombung.blogspot.com/"><span style="color:#ffffff;">นางสาวมนัสยา ประจวบวัน</span></a>atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-8476539564788454222009-10-15T23:27:00.000-07:002009-10-15T23:34:27.573-07:00<span style="color:#000099;"><a href="http://www.mcru.ac.th/">มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง</a></span><br /><span style="color:#000099;"><a href="http://pumpuang007.blogspot.com/">นางสาวพุ่มพวง สังข์วาลวงศ์</a></span>atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-84900796081508695852009-10-14T23:05:00.000-07:002009-10-17T02:40:42.916-07:00<span style="color:#009900;"><span style="font-size:180%;"><span style="color:#33ccff;">ข้อปฏิบัติของนักศึกษาระหว่างฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู</span><br /><span style="color:#cc66cc;">1. แต่งเครื่องแบบนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง<br />2. ลงเวลามาทำงาน เวลากลับและลงลายมือชื่อในใบลงเวลาฝึกงานทุกวัน<br />3. ในกรณีที่จำเป็นไปปฏิบัติงานไม่ได้ ให้ส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาและเก็บใบลาที่ผู้บังคับบัญชาอนุญาตแล้วนำมาแสดงต่ออาจารย์ นิเทศก์อีกครั้งหนึ่ง<br />4. ต้องเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาและปฏิบัติตามกฎระเบียบของหน่วยฝึกสอนนั้นโดยเคร่งครัด<br />5. ห้ามมิให้เปิดเผยความลับของสถานที่ที่นักศึกษาไปฝึกสอน<br />6. ให้บันทึกข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในแต่ละวันลงในเอกสารฝึกสอน และมอบให้ผู้ควบคุมการฝึกงานตรวจสอบ ให้ข้อเสนอแนะและลงรายชื่อกำกับทุกสัปดาห์<br />7. เสนอเอกสารการฝึกสอนให้อาจารย์นิเทศตรวจทุกครั้ง ที่อาจารย์นิเทศก์ไปทำการนิเทศก์ </span></span></span>atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-50881476599168855732009-10-14T23:00:00.000-07:002009-10-17T02:41:53.894-07:00<span style="color:#009900;"><span style="font-size:180%;"><span style="color:#33ccff;">ระเบียบการแต่งกายของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ</span><br /><span style="color:#cc66cc;">ระเบียบการแต่งกายของนักศึกษาหญิง<br />1. กรณีทรงผมสั้นหวีให้สุภาพ ถ้าผมทรงยาวต้องรวบรัดเครื่องตกแต่งสีเข้มกลมกลืนกับผม ห้ามย้อมสีผมที่ต่างไปจากธรรมชาติ ตกแต่งใบหน้าดูสุภาพ ถ้าใส่ตุ้มหูจะต้องสภาพแนบหู<br />2.เสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อเรียบ ปราศจากรวดลาย ลูกไม้เกร็ดรัดตัว ขนาดตัวเสื้อและความยาวแขนเสื้อเหมาะสมกับรูปร่าง กรณีชุดพิธีต้องกลัดกระดุมคอสอดชายเสื้อไว้ในขอบกระโปรงพองามเปิดหัวเข็มขัดตรามหาวิทยาลัย<br />3. กระโปรงผ้าเนื้อเรียบหนาสีดำหรือกรมท่าเข็ม ถ้าเป็นกระโปรงทรงสั้นความยาวคลุมดุมเข่าลงมา 3 นิ้ว ถ้าเป็นกระโปรงทรงยาวจะต้องเหนือส้นเท้า 10 นิ้ว เป็นอย่างน้อยไม่ตกแต่งกระโปรงด้วย กระเป๋าเกล็ด ผ่า แหวก ใดๆทั้งสิ้น<br />4. รองเท้าคัดชูหุ้มหน้าและส้นเท้า<br />5. เสื้อสีประจำโปรแกรมวิชาห้ามใส่มาปฏิบัติงานในเวลา เฉพาะโปรแกรมวิชาศฺลปศึกษาและพลศึกษาจะใช้เฉพาะเข้าสอนภาคปฏิบัติเท่านั้น </span></span></span>atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-47389288566721269112009-10-14T22:58:00.000-07:002009-10-17T02:42:16.876-07:00<span style="font-size:180%;"><span style="color:#006600;"><span style="color:#33ccff;">โครงการครูสหกิจ</span><br /></span><span style="color:#cc66cc;">นักศึกษาคงทราบแล้วว่ารุ่นพี่ ปี 5 ของคณะครุศาสตร์ กำลังฝึกปฏิบัติการสอน ในสถานศึกษาเป็นระยะเวลา 1 ปี หรือ 2 ภาคเรียน ซึ่งผ่านมาแล้วเกือบ 1 ภาคเรียน ในการฝึกปฏิบัติการสอนครั้งนี้ เป็นการฝึกในโครงการ ครูสหกิจศึกษา ครูสหกิจคืออะไร ครูสหกิจเป็นโครงการที่สำนักงานการอุดมศึกษา (ส.ก.อ.) ทำโครงการขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาครูขาดแคลน โดยความร่วมมือกันระหว่าง สถานศึกษา และโรงเรียนที่ขาดแคลน หลักการ1. การปฏิบัติการสอนของนักศึกษาครูในโรงเรียนที่ขาดแคลนครูให้เป็นไปโดยความสมัครใจของนักศึกษา</span></span><span style="color:#cc66cc;"><br /><span style="font-size:180%;">2. นักศึกษาครุที่จะเข้าร่วมโครงการต้องเป็นนักศึกษาครูหลักสูตร 5 ปี</span><br /><span style="font-size:180%;">3. ระยะเวลาที่ใช้ในการปฏิบัติการสอนของนักศึกษาได้แก่ภาคเรียนที่ 2 ของชั้นปีที่ 4 และภาคเรียนที่ 1 ชั้นปีที่ 5</span><br /><span style="font-size:180%;">4. การนิเทศการสอนของนักศึกษาเป็นการดำเนินงานร่วมกับ 3 ฝ่าย ได้แก่ สถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ในพื้นที่และครูผู้เกี่ยวข้องในโรงเรียน</span><br /><span style="font-size:180%;">5. ค่าตอบแทนการปฏิบัติการสอนของนักศึกษาในอัตรา 1,200 บาท/สัปดาห์ หรือ 4,800 บาท/เดือนโครงการนี้มีระยะดำเนินการ 2550-2553 แล้วแต่ว่ารัฐบาลจะอนุมัติให้ดำเนินการต่อหรือไม่ ก็คงต้องติดตามต่อไป </span></span>atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-5492742843311120892009-10-14T22:56:00.000-07:002009-10-17T02:42:56.891-07:00<span style="color:#009900;"><span style="font-size:180%;"><span style="color:#33ccff;">สิ่งที่อยากได้จากนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู</span><br /><span style="color:#cc66cc;">จากที่มีการจัดประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารโรงเรียน ครูพี่เลี้ยง โรงเรียน ฝึกปฏิบัติการสอนของปี 5 วันที่ 28 สิงหาคม 2552ได้มีการรวบรวมเสนอผลของการอภิปรายร่วมกันดังนี้สิ่งที่ผู้บริหารและอาจารย์พี่เลี้ยงอยากเห็นในตัวนักศึกษาฝึกสอน คือ<br />1 สุขภาพร่างกาย แข็งแรง สดชื่น กระฉับกระเฉง<br />2. มีการเตรียมการสอนอย่างดี มีสื่อที่สร้างขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ<br />3. แต่งกายเรียบร้อย ตั้งแต่ทรงผมจรดรองเท้า<br />4. นักศึกษาควรรู้กฎระเบียบหรือวัฒนธรรมองค์กรในโรงเรียนที่ไปฝึกสอนและมีการปรับตัวที่ดี<br />5. อยากให้นักศึกษามีลักษณะเสนอตัวต่อกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน หรือ ครู อาจารย์ ในโรงเรียน<br />6. อยากให้นักศึกษาไปโรงเรียนแต่เช้า และทำงานเต็มเวลา<br />7. ควรมีความรู้อื่น ๆ นอกจากวิชาเอก หมายถึงควรสอนได้หลากหลาย<br />8. อยากให้มีความคิดสร้างสรรค์ และแสวงหา สิ่งใหม่ ๆ ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับครูในโรงเรียนบ้าง<br />9. อยากให้นักศึกษาฝึกสอนมีลักษณะ Love of Wisdom คือ ใฝ่รู้ มีความ Active พร้อมที่จะเข้าไปเรียนรู้งานต่าง ๆ</span></span></span>atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-61973250295805681262009-10-14T22:08:00.000-07:002009-10-17T02:43:22.992-07:00ระเบียบการฝึกประสบการร์วิชาชีพ<span style="font-size:180%;color:#cc66cc;">ระเบียบการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูในสถานศึกษา 2<br />1.นักศึกษาฝึกประสบการณ์ ขั้นการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 จะต้องมีเวลาปฏิบัติงานครบ 2 ภาคเรียน ยกเว้นกรณีจำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากผู้บริหารโรงเรียน<br />2.นักศึกษาฝึกประสบการณ์ ขั้นการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 จะต้องแต่งการตั้งแต่เส้นผมจรดรองเท้า และใช้เครื่องแบบนักศึกษาตามระเบียบของมหาวิทยาลัยที่แนบมา<br />3.นักศึกษาฝึกประสบการณ์ ขั้นการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 ต้องห้ามการพนัน อบายมุข สิ่งเสพย์ติดทุกอย่าง ชู้สาว รวมไปถึงการกระทำที่ผิดคุณธรรมทั้งในและนอกเวลาปฏิบัติงานอย่างเด็ดขาด<br />4.นักศึกษาฝึกประสบการณ์ ขั้นการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 จะต้องปฏิบัติตามคำตักเตือนและคำแนะนำของครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ ผู้อำนวยการ อาจารย์พี่เลี้ยง และอาจารย์นิเทศอย่างเคร่งครัด<br />5.นักศึกษาฝึกประสบการณ์ ขั้นการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 จะต้องไปโรงเรียนฝึกประสบการณ์ก่อนเวลาโรงเรียนเข้าอย่างน้อย 30 นาที และกลับที่พักหลังจากโรงเรียนเลิกแล้ว 30 นาที เป็นอย่างน้อย<br />6.นักศึกษาฝึกประสบการณ์ ขั้นการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 จะต้องลงเวลาการทำงานและกลับตามความเป็นจริงในบัญชีลงเวลาการทำงานที่โรงเรียนจัดไว้ให้<br />7.การขออนุญาตลาป่วย นักศึกษาจะต้องยื่นใบลาตามระเบียบของทางราชการต่อครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ หรือผู้อำนวยการ ให้ส่งใบลาในวันที่ป่วยหรือวันแรกที่กลับมาทำการสอนหลังจากหายป่วยแล้ว<br />8.ในระหว่างเวลาราชการ ถ้านักศึกษามีความจำเป็นจะต้องออกนอกบริเวณโรงเรียนให้นักศึกษาอนุญาตจากอาจารย์พี่เลี้ยง หรือผู้บริหารโรงเรียน และปฏิบัติตามระเบียบการออกนอกบริเวณโรงเรียนตามระบุในสัญญาที่ทำไว้กับฝ่ายฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู<br />9.นักศึกษาฝึกประสบการณ์ ขั้นการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 จะต้องปฏิบัติตามระเบียบต่าง ๆ ของโรงเรียน เช่นเดียวกับครูประจำการขั้นทดลองปฏิบัติงานจึงไม่มีสิทธิลากิจ ยกเว้นกรณีได้รับอนุญาตจากผู้บริหารโรงเรียน<br />10.นักศึกษาฝึกประสบการณ์ ขั้นการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 จะต้องรายงาน ครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ หรือผู้อำนวยการ และอาจารย์นิเทศทราบทันที ถ้ามีเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โรงเรียน มหาวิทยาลัย นักเรียน หรือ ตัวนักศึกษาเอง<br />11.นักศึกษาควรปรึกษาอาจารย์พี่เลี้ยงเกี่ยวกับการทำแผนการสอน และต้องส่งแผนการสอนให้อาจารย์พี่เลี้ยงตรวจล่วงหน้าก่อนสอน 1 สัปดาห์<br />12.นักศึกษาที่เป็นประธานหน่วยฝึกประสบการณ์ ขั้นการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 จะต้องรายงานการมาสาย ขาด การลาป่วย ของนักศึกษาฝึกประสบการณ์ ในโรงเรียนให้อาจารย์นิเทศทราบทุกครั้งที่มาทำการนิเทศ และสรุปเป็นลายลักษณ์อักษรส่งฝ่ายฝึกประสบการณ์ในวันสัมมนาทุกครั้ง และวันปัจฉิมนิเทศ<br />13. นักศึกษาจะต้องมีการประชุมหารือ เพื่อวางโครงการปฏิบัติงานและแก้ไขปัญหาต่างตลอดจนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันเป็นประจำทุกสัปดาห์ และเลขานุการหน่วยฝึกต้องจดบันทึกไว้ในสมุดรายงานการประชุมทุกครั้ง และส่งฝ่ายฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูในวันสัมมนาและปัจฉิมนิเทศ<br />14. นักศึกษาฝึกประสบการณ์ ขั้นการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 ที่พักในบ้านพักของโรงเรียน จะต้องไม่นำบุคคลภายนอกมาค้างคืนในบ้านพัก การไปค้างคืนที่อื่นจะต้องแจ้งให้อาจารย์ที่รับผิดชอบเรื่องที่พักทรายอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรทุกครั้ง<br />15.ถ้านักศึกษาประพฤติตนไม่เหมาะสมกับการเป็นนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู แม้นักศึกษาได้รับการว่ากล่าวตักเตือนแล้วก็ยังไม่แก้ไขปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น มหาวิทยาลัยอาจพิจารณาให้นักศึกษาพ้นสภาพการฝึกประสบการณ์ ขั้นการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 ในภาคเรียนนั้น</span>atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-77906973033724483142009-10-14T21:29:00.000-07:002009-10-17T02:44:41.486-07:00<div align="center"><span style="font-size:180%;color:#33ccff;">วิสัยทัศน์<br /></span><span style="font-size:180%;color:#009900;"><span style="color:#cc66cc;">โรงเรียนวัดเขาวัง (แสง ชวงสุวนิช) เป็นโรงเรียนปฏิรูปการศึกษา ที่พัฒนากระบวนการเรียนรู้ เน้นนวัตกรรม สร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมสู่การประกันคุณภาพ นักเรียนมีคุณธรรมนำความรู้สู่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาสู่การศึกษาต่อ</span><br /><span style="color:#33ccff;">ปรัชญาโรงเรียน</span><br /></span><span style="color:#009900;"><span style="font-size:180%;"><span style="color:#cc66cc;">กลฺยาณการี กลยาณํ ปาปการีจปาปกํทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว</span><br /><span style="color:#33ccff;">คำขวัญ</span><br /><span style="color:#cc66cc;">มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำคุณภาพ</span><br /><span style="color:#33ccff;">อุดมคติโรงเรียน</span></span></span></div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#009900;"><span style="color:#cc66cc;">"สามัคคีคือพลัง"<br /></span><span style="color:#33ccff;">นโยบายการจัดการศึกษาของโรงเรียน</span> </span></div><div align="left"><span style="font-size:180%;color:#cc66cc;">1.ส่งเสริม ปฏิรูปการศึกษา โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการที่ดี ตามหลักธรรมาภิบาลและบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน<br />2.พัฒนากระบวนการเรียนรู้ โดยยึดนักเรียนเป็นสำคัญ<br />3.ส่งเสริมการใช้นวัตกรรม มาประกอบการจัดการศึกษาโดยพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะการวิจัยและการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา<br />4.พัฒนาสภาพแวดล้อม อาคารสถานที่ให้มีบรรยากาศที่เอื้อต่อการจัดการศึกษา จัดวัสดุอุปกรณ์ให้เพียงพอต่อการบริการ<br />5.พัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน<br />6.ส่งเสริม สนับสนุน กิจกรรมพัฒนาคุณธรรมนำความรู้สู่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้เกิดแก่นักเรียน โดยชุมชนมีส่วนร่วม รวมทั้งการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่น<br />7.ส่งเสริม สนับสนุนการดูแลช่วยเหลือนักเรียนทุกคนให้ได้รับการศึกษาต่อ<br /></span></div>atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3589301481663916610.post-33197608409710329312009-10-14T21:06:00.001-07:002009-10-17T02:46:03.443-07:00ภาพบุคลากรโรงเรียนวัดเขาวัง (แสง ช่วงสุวนิช)atomhttp://www.blogger.com/profile/13585748298812833227noreply@blogger.com0